พอพูดถึงงานแต่ง หลายๆคนคงทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ ทั้งเหนื่อย หลากหลายอารมณ์มากๆ แต่สำหรับบอกเลยว่า ทั้งสุขทั้งเหนื่อยมาเต็มมาก เรียกได้ว่า เป็นครั้งนึงในชีวิตที่ไม่มีวันลืมเลยก็ว่าได้
จากวันแรกที่แฟนขอแต่งงาน ประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ 2019 จนถึงเดือนตุลาคม 2019 เวลาประมาณ 6-7 เดือนได้ ถือว่าไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป หลังจากนั้นวันนั้นเราก็เริ่มที่จะหาสถานที่ และ Mood and tone ที่เราชอบ ทั้งรูปแบบชุด
ตัวซังเองโชคดีที่ครอบครัวให้อิสระในความคิดเต็มที่ รวมไปถึงแฟนก็ตามใจเราเต็มที่ เพราะฉะนั้นงานก็ออกมาในสไตล์เราทั้งหมดเลย พร้อมแล้ว…ไปดูกันเลย
เลือก Mood & Tone
มาเริ่มที่จุดแรก สิ่งที่เราควรทำตอนแรกนั้นก็คือการ
– กำหนดวันแต่งงาน
– มีแขกร่วมงานกี่ท่าน
– สไตล์/ธีมงานแต่งที่ต้องการเป็นยังไง
– พิธีการต้องการจัดแบบไหน จีน / ไทย / ฝรั่ง
สำหรับตัวซัง ซังชอบความ Minimal + Modern ผสมผสานกันไป ส่วนพิธีการของซังคือ ไม่มีอะไรเลย แค่แลกแหวน ถ่ายรูป แล้วก็เข้างานเลี้ยง จบง่ายๆ แค่งานเช้า-บ่าย
ด้วยความที่ซังชอบ Geometric มาก เลยอยากให้งานออกมาแนวประมาณนี้ คือมีความคุมโทน ไม่ให้สีฉูดฉาดมากไป
และนี่คือรูปงานวันจริงของซัง 🙂
Theme : Navy & Rosegold ธีมสียอดฮิต !
เลือกสถานที่ที่ถูกใจ
หลังจากที่เรามี theme และ Mood & Tone แล้วเราก็เริ่มหาสถานที่ ตัวซังไปหามาหลายที่มากๆ ตัวเราเองไม่ชอบจัดงานในโรงแรม อยากจัดให้เป็น Private ที่มีทั้งโซนสวนและ Hall ด้วยความโชคดีของซัง ซังได้เจอสถานที่จัดงานแต่งงานใหม่ที่เพิ่งเสร็จสดๆร้อนๆ นั้นก็คือ Aube >> อ่านรีวิว
PREWEDDING
พอวันแต่งงานมาแล้ว ก็ต้องมีการถ่ายพรีเวดดิ้ง ซังตัดสินใจถ่ายที่สถานที่แต่งงานนั่นแหละแต่งหน้าเอง ทำผมเอง หาชุดเอง ส่วนช่างภาพที่มาถ่ายนั้นก็คือ Amon.AP StudiO
สไตล์ที่ซังชอบคือต้องการเรียบๆ ไม่เอาเยอะ ขอเน้นไปที่ Mood มากกว่า …
เลือก Catering ที่ถูกใจเรา !
หลังจากได้สถานที่แล้ว ด้วยความที่ซังให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารมาก แต่เราก็ต้องประหยัดงบด้วย เลยพยายามหา catering ที่อร่อยและประหยัด (ซังไม่ได้ใช้ของAUBEนะ)
ถึงตรงนี้ขอแชร์ประสบการณ์โดยตรงกับการเสียเงินซ้ำซ้อน ตัวซังได้เสียเงินไปลองชิมอาหารมาหลายที่มาก แต่ก็ต้องผิดหวัง ทั้งการบริการและรสชาติ ตอนนั้นทั้งเครียด ทั้งเฟลกับสิ่งที่เจอ หมดไปก็หลายพัน แต่ก็ไม่เจอร้านที่อร่อยถูกใจเราซักที
แต่ก็เหมือนพบทางสว่าง เราได้เจอ Catering ที่มีความมืออาชีพ พูดคุยง่าย ให้คำปรึกษาตลอดทั้งงาน นั้นก็คือ Brown sugar catering โดยมีคุณดอส เป็นคนคุมงานทั้งหมด อาหารของเค้าทั้งหมดเราได้ชิมก่อนถึงวันงาน และขอคอนเฟิร์มว่า “อร่อยมาก” รวมไปถึงราคาก็ไม่แรงมาก แถมมีลดแลกแจกแถมเยอะไปหมด ตัดสินใจเลยว่า “ต้องเอาเจ้านี้ !”
ทั้งเพื่อนๆและแขกที่ร่วมงานเราก็ชมว่า อาหารอร่อยมาก พอได้ยินแบบนั้นก็เราดีใจ
ทั้งหมดนี้คือรูปงานวันจริงทั้งหมด ทั้งไลน์อาหารและการบริการครบถ้วนสวยงามมากๆ ตัวเราที่เป็นเจ้าสาว ไม่กังวลเลย ทางคุณดอสก็แจ้งเราตลอดว่า ” คุณซังมีหน้าที่ยิ้มและมีความสุขมากๆในวันแต่งงานก็พอ ทางอาหารเค้าจะเป็นคนดูแลเอง ไม่ต้องเป็นห่วง ” : )
ที่เลิฟสุด คือเค้ามีจัดอาหารให้บ่าวสาว หลังจากงานแต่งเสร็จแล้วด้วย แฮปปี้สุด !
ของชำร่วยงานแต่ง / ของไหว้ผู้ใหญ่
สำหรับของชำร่วย ซังสั่งมาเป็นแบบรายชิ้น และ แพ็คอีกรอบ เป็นช้อนชาที่ด้านปลายเป็นคริสตัล เสียดายที่ไม่มีภาพของชำร่วย เอาภาพรวมๆไปก่อนเนอะ
ในส่วนของไหว้ผู้ใหญ่ซังสั่งจากร้าน HOM HERBAL โดยซังเลือกที่ของด้านในเป็นของที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ทั้งน้ำผึ้ง ข้าวสามสี ฯลฯ
พานขันหมากสุด Minimal
ในส่วนของพานขันหมากต้องยกให้ Dreamista studio เลย >> อ่านรีวิว
Groom & Bride Dresses
ในส่วนของชุดเจ้าสาวตอนงานเลี้ยง ซังสั่งตัดใหม่ กับร้าน GEM >> อ่านรีวิว
แต่ในส่วนของชุดไทย ซังขอไม่รีวิว เพราะแอบไม่ประทับใจเท่าไร เนื่องจากว่า เช่าชุดไทยแบบนุ่งสดมา แต่ของที่ได้มา คือทั้งหักและแตก ชุดไทยตอนเช้าเราใส่ได้แปปเดียว ใส่ถ่ายรูปอยู่หลุดซะงั้น รูปที่ได้ก็น้อย แอบเฟลเหมือนกัน ทั้งๆที่เป็นร้านดังมากๆ สุดท้ายคือชดเชยให้เราโดยการคืนเงินนิดหน่อย ซึ่งถือว่าไม่คุ้มกับประสบการณ์ที่เราได้ :’ (
ในส่วนของ ชุดเจ้าบ่าว ซังตัดร้าน IBERIS ที่MBK เป็นร้านของอี๊ซังเอง ราคาไม่แพง คุณภาพดี ใส่แล้วดูดีมากๆ ร้านอยู่ชั้น G ตรงข้ามแมคโดนัลไปซื้อกันได้ แหะๆ
Bridesmaid
ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่เพื่อนๆหาถึงกันเยอะมาก เป็นชุดที่เช่ามาให้เพื่อนๆที่สำคัญกับเราโดยเฉพาะ มาจากร้าน by I AM A GIRL ราคาน่ารัก ผ้าดี ทิ้งตัว เวลาถ่ายรูปสวยมากๆ
และเมื่อเรา ไม่มี Wedding Planner สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้งานออกมาได้ดีที่สุดคือ ครอบครัวและเพื่อนๆของเรานั่นเอง เราโชคดีที่มีครอบครัวที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทั้งขนมและกาแฟตอนเช้า ทุกสิ่งทุกอย่างทุกคนพร้อมช่วยเหลือให้งานราบรื่น
และขอบคุณเพื่อนๆเจ้าสาวทุกคน ที่เป็นทั้งพิธีกร เป็นคนคอยซับหน้า ซับเหงือ เติมลิป ทำให้เรามั่นใจตลอดทั้งวัน คือเราซึ้งใจมาก เพราะทุกคนเต็มที่มากจริงๆ
ตัวซังเองทำทุกอย่างเอง จัดการทุกอย่างในงานแต่ง ไม่ได้จ้าง Planner ไม่ได้จ้างพิธีกร และรันคิวต่างๆ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเป็นคนที่เหนื่อยที่สุด
แต่พอถึงวันจริง วันนั้น เราไม่สามารถลงไปดูทุกอย่างได้ เราต้องเชื่อใจทุกๆคนที่ทำหน้าที่แทนเรา และสุดท้ายงานก็ออกมาดีทุกอย่าง เป็นวันที่เรามีความสุขมากๆ พอคิดถึงทีไรก็ยิ้มได้ทุกครั้ง ขอบคุณสถานที่ที่ประสานงานทุกอย่างให้ ขอบคุณครอบครัวที่รักที่คอยซัพพอร์ตทุกอย่างให้ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่คอยช่วยทุกสิ่งอย่าง ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่มาร่วมงานและไม่ได้มา รวมไปถึงทุกคนที่แสดงความยินดีกับเราสองคน
สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลอื่นๆ สามารถทักมาสอบถาม หรือปรึกษาซังได้
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะแต่งงานหรือ
เก็บข้อมูลแต่งงานนะคะ แล้วพับกันใหม่ บทความหน้าค่ะ <3
สำหรับวันนี้ซังต้องขอตัวลาไปก่อน
แล้วพบกันใหม่ บทความหน้าค่ะ <3
♥ BYE BYE ♥
▷ IG : sungsungblog
▷ FACEBOOK : sungsungblog
▷ BLOG : sungsung-blog.com
